การพัฒนาระบบควบคุมฟาร์มปลาอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี Artificial Intelligence

โครงการอบรมการใช้ Artificial Intelligence (AI) ในระบบควบคุมฟาร์มปลาอัจฉริยะ

บริษัท Epower Service ร่วมมือกับโชคอนันต์ฟาร์ม จังหวัดเชียงราย ในการพัฒนาระบบควบคุมฟาร์มปลาอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี Artificial Intelligence ร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Software Engineering และ Automation Engineering

วัตถุประสงค์ของโครงการ
โครงการร่วมมือนี้มุ่งเน้นการพัฒนาและทดสอบระบบควบคุมอัตโนมัติสำหรับฟาร์มปลาด้วยเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) ร่วมกับ Codesys PAC และ HTML5 เพื่อสร้างต้นแบบการใช้ AI ในการจัดการฟาร์มปลาที่มีประสิทธิภาพ โดยเกษตรกรสามารถพัฒนาและปรับปรุงระบบได้ด้วยตัวเอง

• ข้อได้เปรียบจากการใช้ AI สำหรับฟาร์มปลา
  การพัฒนาแบบครบวงจร
  เกษตรกรสามารถพัฒนาทั้งระบบ Software และ Hardware ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึกด้านการเขียนโปรแกรม เพียงแค่เรียนรู้การใช้ AI ในการช่วยเขียนโค้ดและได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในช่วงเริ่มต้น
• การตอบสนองความต้องการเฉพาะ
  เนื่องจากเกษตรกรเป็นผู้ที่รู้จักทุกกระบวนการในฟาร์มของตัวเองดีที่สุด การพัฒนาระบบด้วยตัวเองจึงสามารถสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะได้อย่างแม่นยำ
• ประสิทธิภาพด้านต้นทุน
  ลดค่าใช้จ่ายในการจ้าง Software Engineer และ Automation Engineer พร้อมทั้งมีความรวดเร็วในการพัฒนาและปรับปรุงระบบตามความต้องการ

การพัฒนาระบบที่ดำเนินการอยู่

• ระบบควบคุมคุณภาพน้ำ
  การวัดและควบคุมค่าออกซิเจนละลายน้ำ (Dissolved Oxygen) แบบอัตโนมัติ พร้อมการควบคุมเครื่องตีน้ำและระบบแจ้งเตือนเมื่อค่าต่างๆ อยู่นอกเหนือมาตรฐานที่กำหนด
• ระบบควบคุมอุณหภูมิ
  การพัฒนา PID Controller สำหรับควบคุมอุณหภูมิในบ่ออนุบาลลูกปลา เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
• ระบบ AI Vision
  การใช้กล้องถ่ายภาพร่วมกับ Artificial Intelligence (AI) ในการนับจำนวนปลาและลูกปลาอัตโนมัติ รวมถึงการวิเคราะห์พฤติกรรมของปลาเพื่อตรวจจับความผิดปกติ
• ระบบจัดการข้อมูลและการแจ้งเตือน
  การสร้าง Dashboard สำหรับแสดงผลข้อมูลแบบ Real-time และระบบการแจ้งเตือนผ่านช่องทางต่างๆ เช่น LINE, SMS หรือ Email

ระยะการพัฒนาโครงการ (21 วัน)

•  สัปดาห์ที่ 1: การศึกษาและออกแบบระบบ
  การวิเคราะห์ความต้องการของฟาร์ม การออกแบบ Architecture ของระบบ และการเตรียม AI Tools สำหรับการพัฒนา
  
• สัปดาห์ที่ 2: การติดตั้งและเชื่อมต่อ Hardware
  การติดตั้ง Programmable Automation Controller การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์และ Actuator การตั้งค่า Input/Output และระบบการสื่อสาร
  
• สัปดาห์ที่ 3: การบูรณาการและทดสอบระบบ
  การรวมระบบทั้งหมดเข้าด้วยกัน การสร้าง Web Interface ด้วย HTML5 การพัฒนาระบบ AI Vision และการทดสอบประสิทธิภาพ
  

แนวทางการพัฒนาสำหรับฟาร์มอื่น
โครงการนี้เป็นต้นแบบที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการใช้ AI สำหรับการพัฒนาระบบควบคุมฟาร์มปลา โดย
- เกษตรกรเจ้าของฟาร์มปลาที่ต้องการพัฒนาระบบควบคุมอัตโนมัติ
- ผู้ประกอบการ SME ในภาคเกษตรกรรม
- วิศวกรและนักศึกษาที่สนใจเทคโนโลยีเกษตร
- ผู้ที่มองหาโอกาสในการประยุกต์ใช้ AI ในธุรกิจ
สามารถศึกษาแนวทางและประยุกต์ใช้กับฟาร์มของตัวเองได้

เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ใช้ในโครงการ

• Hardware
  - ชุด PAC Controller พร้อมอุปกรณ์ควบคุม
  - เซ็นเซอร์วัดค่าต่างๆ (DO, pH, อุณหภูมิ)
  - กล้อง IP สำหรับระบบ AI Vision
  - อุปกรณ์ Actuator และระบบเครือข่าย
  
• Software
  - Codesys Development System License
  - เครื่องมือพัฒนาและ AI Tools
  - คู่มือการใช้งานภาษาไทย
  
• การติดตาม Monitoring ระบบ
  - การติดตามประสิทธิภาพของระบบ
  - การบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูล
  - การปรับปรุงและพัฒนาต่อยอด

 ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากโครงการ

• ด้านเทคนิค
  - ระบบควบคุมฟาร์มปลาที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  - การลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงานและการบำรุงรักษา
  - เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของปลา
  
• ด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี
  - การสร้างต้นแบบที่เกษตรกรรายอื่นสามารถประยุกต์ใช้ได้
  - การพิสูจน์ความเป็นไปได้ในการใช้ AI ในภาคเกษตร
  - ความสามารถในการพัฒนาและปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง

บทบาทของทีมผู้เชี่ยวชาญ
ทีม Software Engineer และ Automation Engineer จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำด้านเทคนิค โดยมุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้ให้ผู้เข้าอบรมสามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต
การร่วมมือครั้งนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ AI ในการพัฒนาระบบควบคุมฟาร์มไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด สิ่งสำคัญคือการมีแนวทางและเครื่องมือที่เหมาะสม เกษตรกรที่เข้าใจฟาร์มของตัวเองดีที่สุดจะสามารถสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าใคร

วิสัยทัศน์ของโครงการ
โครงการร่วมมือนี้มุ่งหวังที่จะเป็นต้นแบบสำหรับการประยุกต์ใช้ Artificial Intelligence (AI) ในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย โดยแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการที่เกษตรกรสามารถพัฒนาระบบควบคุมอัตโนมัติได้ด้วยตนเอง
การพัฒนาเทคโนโลยีในครั้งนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการก้าวสู่ยุค Agriculture 4.0 และสามารถขยายผลการดำเนินงานไปยังฟาร์มอื่นๆ ทั่วประเทศในอนาคต